RELX: ผู้ให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก
RELX เป็นบริษัทมหาชนสัญชาติอังกฤษ ผู้ให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก ที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์ (information and analytics) แก่ลูกค้าธุรกิจและมืออาชีพทั่วโลก รวมถึงด้านการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ
โดย RELX เอง ดำเนินการผ่านธุรกิจผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังต่อไปนี้
1. งานวิจัย Scientific, Technical & Medical - STM คิดเป็น 33.4% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้แบรนด์ Elsevier
- เป็นผู้ตีพิมพ์บทความวิชาการชั้นนำของโลก (600,000 บทความในปี 2021)
- ให้บริการฐานข้อมูลวิชาการผ่านแพลตฟอร์มอย่าง ScienceDirect (18 ล้านเอกสาร) และ Scopus
2. การบริหารความเสี่ยง (Risk) คิดเป็น 34.2% ของรายได้
- ให้บริการเครื่องมือช่วยตัดสินใจด้านความเสี่ยงสำหรับธนาคารและบริษัทประกันภัย
- ช่วยตรวจจับการฟอกเงิน และการฉ้อโกง
- 84% ของบริษัทใน Fortune 500 เป็นลูกค้าของ RELX และ 9 ใน 10 ธนาคารชั้นนำของโลกก็เป็นลูกค้าของ RELX เช่นกัน
3. การบริการด้านกฎหมาย (Legal) คิดเป็น 20.2% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้แบรนด์ LexisNexis
- ฐานข้อมูลทางกฎหมายและข่าวสารมีเอกสารมากกว่า 119 พันล้านฉบับ
- 85% ของรายได้มาจากการให้บริการแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยรีดใ้ห Operating Margin ของบริษัทดีมากเลยล่ะ
และ BU สุดท้าย
4. การจัดนิทรรศการ (Exhibitions) คิดเป็น 12.2% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้ชื่อ RX (เดิมคือ Reed Exhibitions)
- เป็นบริษัทจัดนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานแสดงสินค้า 500 งานสำหรับผู้ออกบูธ 140,000 รายและผู้เข้าชม 7 ล้านคน[2]
------------------------------------------------------------------------
[โครงสร้างรายได้]
ปี 2024 RELX มีรายได้อยู่ที่ £9.434 พันล้าน และมีกำไรสุทธิ £1.934 พันล้าน
หลักๆ แล้ว โครงสร้างรายได้ของธุรกิจเน้นไปที่การให้บริการแบบดิจิทัลและการสมัครสมาชิกทำให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้:
- 93% ของรายได้ทั้งหมดมาจากผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
- รายได้จากการสมัครสมาชิกแบบต่อเนื่องมีมูลค่า £6.4 พันล้านในปี 2023
- อัตราการต่ออายุสมาชิกมากกว่า 90% ในทุกส่วนธุรกิจ
-------------------------------------------------------------------------
[ลูกค้าหลัก]
RELX ให้บริการลูกค้ากว่า 180 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และเสิร์ฟผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิชาชีพ ครอบคลุมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเลยล่ะคุณ โดยเบื้องต้นเรากล่าวไ้แล้วคร่าวๆ เกี่ยวกับลูกค้า จากข้อมูลเพิ่มเติม เราใส่มาเพิ่มดังนี้ฮะ
- สถาบันการศึกษาและการวิจัย
- บริษัทใน Fortune 500 (84%)
- ธนาคารชั้นนำของโลก (9 ใน 10 แห่ง)
- บริษัทประกันภัยชั้นนำ (21 ใน 25 แห่ง)
- สำนักงานกฎหมาย
- หน่วยงานภาครัฐ
------------------------------------------------------------------------------
Competitive Advantage & Moat
gvk]jt มาอยู่ในหัวข้อที่ทุกคนน่าจะให้ความสนใจกัน RELX มี moat ที่แข็งแกร่งหลักๆ 2 เรื่อง ซึ่งเราว่าเรื่องนี้มันช่วยให้บริษัทรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 2 หัวข้อที่ว่าคืออันนี้:
1. High Switching Costs ต้นทุนการเปลี่ยนแปลงสูง
- ส่วนหนึ่งมาจากแบรนด์ และการที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องการนำเสนอ Research ดีๆ ให้กับเล่ม Research ของทาง Science Direct หรือแม้แต่การใช้ SCopus เพื่อตรวจจับการโกง
- สิ่งนี้เลยทำให้บรรดาอาจารย์ และลูกค้าที่ใช้บริการของ RELX มีต้นทุนในการเปลี่ยนไปใช้บริการของคู่แข่งสูง หากคู่แข่งไม่มีของแบบนี้มาสู้ได้ และว่ากันตามตรงเราว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความภาคภูมิของมหาลัยด้วยล่ะ ที่อยากจะตีพิมพ์ Research ดีๆ กับเจ้าดังๆ ซึ่ง RELX สั่งสมประสบการณ์มามากเลย
- ซึ่งเรื่องที่เรากล่าวไป มันเลยสะท้อนมาที่อัตราการต่ออายุสมาชิกที่สูงถึง 90% แสดงให้เห็นถึงการล็อคลูกค้าได้ดีเลย
2. ความประหยัดจากขนาด (Economies of Scale)
- ด้วยความที่เขาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม นั่นเลยทำให้บริษัทมีมีเครือข่ายลูกค้าขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์ม
- และด้วยเรื่องต้นทุนต่างๆ ที่พอบริษัทหันมาอยู่ในโลกดิจิตัลแล้ว มันเลยไม่ได้มีมากขนาดนั้น ยิ่งสเกลได้ง่าย
และจุดขายอื่นๆ ที่นอกจาก Moat ก็มีเรื่องของ
ฐานข้อมูลกรรมสิทธิ์เฉพาะ (Proprietary Database)
- ที่บริษัทครอบครองฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมมาเป็นเวลานาน เช่น ScienceDirect ที่มีเอกสารกว่า 18 ล้านชิ้น และ LexisNexis ที่มีเอกสารกว่า 119 พันล้านฉบับ
- ซึ่งข้อมูลพวกนี้อาจจะยากหน่อยต่อการลอกเลียนแบบหรือสร้างใหม่ ทำให้คู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ยาก
และอีกเรื่องที่น่าจะพูดถึง คือ
ความต้านทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจ (Anti-cyclical)
- บริการวิเคราะห์ข้อมูลของ RELX มีความจำเป็นไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นยังไง เพราะว่าโลกมันถูกขัยเคลื่อนด้วยการ R&D ล้วนๆ และ Trust เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
- นอกจาดนี้ ลูกค้ายังคงต้องใช้ข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์แม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากทั้งหลายทั้งปวงนี้ มันสนับสนุนว่าบริษัทนี้มันดูน่าสนใจ น่าแข็งแกร่งมากเลย
และมันส่งให้ภาพสติรี่ของบริาัทดูมีอะไรให้เล่นอีกมากด้วย ผ่าน Usecase ของ AI ใหม่ๆ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคุณ ว่าบริษัทนี้ รายได้โตแค่หลักเดียว และกำไรโตแค่หลัก 1x% แต่บริษัทกลับถูกเทรดอยู่ที่ P/E 5x เท่า ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว หุ้นกลุ่มนี้ อาจจะอยู่ในขอบข่ายของทาง Passive Fund ที่ต้องซื้อหุ้นในตระกร้าของ ETF ฝั่ง Euro Zone แน่ๆ อยู่แล้ว กับส่วนหนึ่งอาจจะเป็นนักลงทุนที่อาจจะเป็นสาย Mometum Play
น่าเสียดายหากท่านเป็นนักลงทุนสาย Growth Investor แล้ว การที่บริษัทเทรดที่ P/E ระดับนี้ รวมถึง Growth ที่ไม่ได้สูงขนาดนั้น คงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใเหมือนกัน หากเราจะซื้อ ณ ระดับ P/E นี้ จนอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นการลงทุนที่ดีหรือเปล่า หรือว่าเราควร Say Bye แล้วไปหาตัวอื่นต่อไป
สำหรับเราแล้ว เราอาจจะมองว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่อาจจะแพงแบบไร้สาระไปหน่อย แต่ในความไร้สาระนั้น พื้นฐานของเขาก็นับว่าไม่เลว และสมควรที่จะถูกหยิบเป็นเคสของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของ Revenue Stream อย่างแท้จริง และ Business Model แบบนี้ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เสียด้วย
และด้วยความแพงระดับนี้ เราให้เขาอยู่ในระดับ ของขลังของวงการการเงิน อย่าง ASML , NVDA , LIN , ISRG ที่แบบเก่งมากกก เก่งเกินจนแบบต้องเทรด P/E ระดับนี้
ไว้คราวหน้าเราจะหาตัวที่คล้ายๆ แบบนายให้เจอนะ
ขอจบการบ่นแต่เพียงเท่านี้
RELX เป็นบริษัทมหาชนสัญชาติอังกฤษ ผู้ให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก ที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์ (information and analytics) แก่ลูกค้าธุรกิจและมืออาชีพทั่วโลก รวมถึงด้านการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ
โดย RELX เอง ดำเนินการผ่านธุรกิจผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังต่อไปนี้
1. งานวิจัย Scientific, Technical & Medical - STM คิดเป็น 33.4% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้แบรนด์ Elsevier
- เป็นผู้ตีพิมพ์บทความวิชาการชั้นนำของโลก (600,000 บทความในปี 2021)
- ให้บริการฐานข้อมูลวิชาการผ่านแพลตฟอร์มอย่าง ScienceDirect (18 ล้านเอกสาร) และ Scopus
2. การบริหารความเสี่ยง (Risk) คิดเป็น 34.2% ของรายได้
- ให้บริการเครื่องมือช่วยตัดสินใจด้านความเสี่ยงสำหรับธนาคารและบริษัทประกันภัย
- ช่วยตรวจจับการฟอกเงิน และการฉ้อโกง
- 84% ของบริษัทใน Fortune 500 เป็นลูกค้าของ RELX และ 9 ใน 10 ธนาคารชั้นนำของโลกก็เป็นลูกค้าของ RELX เช่นกัน
3. การบริการด้านกฎหมาย (Legal) คิดเป็น 20.2% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้แบรนด์ LexisNexis
- ฐานข้อมูลทางกฎหมายและข่าวสารมีเอกสารมากกว่า 119 พันล้านฉบับ
- 85% ของรายได้มาจากการให้บริการแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยรีดใ้ห Operating Margin ของบริษัทดีมากเลยล่ะ
และ BU สุดท้าย
4. การจัดนิทรรศการ (Exhibitions) คิดเป็น 12.2% ของรายได้
- ดำเนินการภายใต้ชื่อ RX (เดิมคือ Reed Exhibitions)
- เป็นบริษัทจัดนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานแสดงสินค้า 500 งานสำหรับผู้ออกบูธ 140,000 รายและผู้เข้าชม 7 ล้านคน[2]
------------------------------------------------------------------------
[โครงสร้างรายได้]
ปี 2024 RELX มีรายได้อยู่ที่ £9.434 พันล้าน และมีกำไรสุทธิ £1.934 พันล้าน
หลักๆ แล้ว โครงสร้างรายได้ของธุรกิจเน้นไปที่การให้บริการแบบดิจิทัลและการสมัครสมาชิกทำให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้:
- 93% ของรายได้ทั้งหมดมาจากผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
- รายได้จากการสมัครสมาชิกแบบต่อเนื่องมีมูลค่า £6.4 พันล้านในปี 2023
- อัตราการต่ออายุสมาชิกมากกว่า 90% ในทุกส่วนธุรกิจ
-------------------------------------------------------------------------
[ลูกค้าหลัก]
RELX ให้บริการลูกค้ากว่า 180 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และเสิร์ฟผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิชาชีพ ครอบคลุมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเลยล่ะคุณ โดยเบื้องต้นเรากล่าวไ้แล้วคร่าวๆ เกี่ยวกับลูกค้า จากข้อมูลเพิ่มเติม เราใส่มาเพิ่มดังนี้ฮะ
- สถาบันการศึกษาและการวิจัย
- บริษัทใน Fortune 500 (84%)
- ธนาคารชั้นนำของโลก (9 ใน 10 แห่ง)
- บริษัทประกันภัยชั้นนำ (21 ใน 25 แห่ง)
- สำนักงานกฎหมาย
- หน่วยงานภาครัฐ
------------------------------------------------------------------------------
Competitive Advantage & Moat
gvk]jt มาอยู่ในหัวข้อที่ทุกคนน่าจะให้ความสนใจกัน RELX มี moat ที่แข็งแกร่งหลักๆ 2 เรื่อง ซึ่งเราว่าเรื่องนี้มันช่วยให้บริษัทรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 2 หัวข้อที่ว่าคืออันนี้:
1. High Switching Costs ต้นทุนการเปลี่ยนแปลงสูง
- ส่วนหนึ่งมาจากแบรนด์ และการที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องการนำเสนอ Research ดีๆ ให้กับเล่ม Research ของทาง Science Direct หรือแม้แต่การใช้ SCopus เพื่อตรวจจับการโกง
- สิ่งนี้เลยทำให้บรรดาอาจารย์ และลูกค้าที่ใช้บริการของ RELX มีต้นทุนในการเปลี่ยนไปใช้บริการของคู่แข่งสูง หากคู่แข่งไม่มีของแบบนี้มาสู้ได้ และว่ากันตามตรงเราว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความภาคภูมิของมหาลัยด้วยล่ะ ที่อยากจะตีพิมพ์ Research ดีๆ กับเจ้าดังๆ ซึ่ง RELX สั่งสมประสบการณ์มามากเลย
- ซึ่งเรื่องที่เรากล่าวไป มันเลยสะท้อนมาที่อัตราการต่ออายุสมาชิกที่สูงถึง 90% แสดงให้เห็นถึงการล็อคลูกค้าได้ดีเลย
2. ความประหยัดจากขนาด (Economies of Scale)
- ด้วยความที่เขาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม นั่นเลยทำให้บริษัทมีมีเครือข่ายลูกค้าขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์ม
- และด้วยเรื่องต้นทุนต่างๆ ที่พอบริษัทหันมาอยู่ในโลกดิจิตัลแล้ว มันเลยไม่ได้มีมากขนาดนั้น ยิ่งสเกลได้ง่าย
และจุดขายอื่นๆ ที่นอกจาก Moat ก็มีเรื่องของ
ฐานข้อมูลกรรมสิทธิ์เฉพาะ (Proprietary Database)
- ที่บริษัทครอบครองฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมมาเป็นเวลานาน เช่น ScienceDirect ที่มีเอกสารกว่า 18 ล้านชิ้น และ LexisNexis ที่มีเอกสารกว่า 119 พันล้านฉบับ
- ซึ่งข้อมูลพวกนี้อาจจะยากหน่อยต่อการลอกเลียนแบบหรือสร้างใหม่ ทำให้คู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ยาก
และอีกเรื่องที่น่าจะพูดถึง คือ
ความต้านทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจ (Anti-cyclical)
- บริการวิเคราะห์ข้อมูลของ RELX มีความจำเป็นไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นยังไง เพราะว่าโลกมันถูกขัยเคลื่อนด้วยการ R&D ล้วนๆ และ Trust เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
- นอกจาดนี้ ลูกค้ายังคงต้องใช้ข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์แม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากทั้งหลายทั้งปวงนี้ มันสนับสนุนว่าบริษัทนี้มันดูน่าสนใจ น่าแข็งแกร่งมากเลย
และมันส่งให้ภาพสติรี่ของบริาัทดูมีอะไรให้เล่นอีกมากด้วย ผ่าน Usecase ของ AI ใหม่ๆ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคุณ ว่าบริษัทนี้ รายได้โตแค่หลักเดียว และกำไรโตแค่หลัก 1x% แต่บริษัทกลับถูกเทรดอยู่ที่ P/E 5x เท่า ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว หุ้นกลุ่มนี้ อาจจะอยู่ในขอบข่ายของทาง Passive Fund ที่ต้องซื้อหุ้นในตระกร้าของ ETF ฝั่ง Euro Zone แน่ๆ อยู่แล้ว กับส่วนหนึ่งอาจจะเป็นนักลงทุนที่อาจจะเป็นสาย Mometum Play
น่าเสียดายหากท่านเป็นนักลงทุนสาย Growth Investor แล้ว การที่บริษัทเทรดที่ P/E ระดับนี้ รวมถึง Growth ที่ไม่ได้สูงขนาดนั้น คงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใเหมือนกัน หากเราจะซื้อ ณ ระดับ P/E นี้ จนอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นการลงทุนที่ดีหรือเปล่า หรือว่าเราควร Say Bye แล้วไปหาตัวอื่นต่อไป
สำหรับเราแล้ว เราอาจจะมองว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่อาจจะแพงแบบไร้สาระไปหน่อย แต่ในความไร้สาระนั้น พื้นฐานของเขาก็นับว่าไม่เลว และสมควรที่จะถูกหยิบเป็นเคสของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของ Revenue Stream อย่างแท้จริง และ Business Model แบบนี้ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เสียด้วย
และด้วยความแพงระดับนี้ เราให้เขาอยู่ในระดับ ของขลังของวงการการเงิน อย่าง ASML , NVDA , LIN , ISRG ที่แบบเก่งมากกก เก่งเกินจนแบบต้องเทรด P/E ระดับนี้
ไว้คราวหน้าเราจะหาตัวที่คล้ายๆ แบบนายให้เจอนะ
ขอจบการบ่นแต่เพียงเท่านี้
Penafian
Maklumat dan penerbitan adalah tidak dimaksudkan untuk menjadi, dan tidak membentuk, nasihat untuk kewangan, pelaburan, perdagangan dan jenis-jenis lain atau cadangan yang dibekalkan atau disahkan oleh TradingView. Baca dengan lebih lanjut di Terma Penggunaan.
Penafian
Maklumat dan penerbitan adalah tidak dimaksudkan untuk menjadi, dan tidak membentuk, nasihat untuk kewangan, pelaburan, perdagangan dan jenis-jenis lain atau cadangan yang dibekalkan atau disahkan oleh TradingView. Baca dengan lebih lanjut di Terma Penggunaan.