ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ดิ่งลงหลังสหรัฐเผยตัวเลขศก.หลายตัว
นิวยอร์ค--28 พ.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุลในวันพุธท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางก่อนช่วงวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.ในปีนี้ ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่ตอกย้ำความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และนักลงทุนประเมินความเสี่ยงจากสงครามภาษีศุลกากรที่เป็นผลจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพุธว่า ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐปรับขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี PCE แบบเทียบรายปีปรับขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายปี
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.07 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยร่วงลงจาก 106.90 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 105.85 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. โดยดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงมาแล้วราว 1.9% จากจุดสูงสุดรอบ 2 ปีที่ 108.09 ที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ 22 พ.ย.
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 151.10 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยดิ่งลงจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 153.10 เยน หลังจากรูดลงแตะ 150.44 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบราว 5 สัปดาห์
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0564 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยพุ่งขึ้นจาก 1.0486 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร
นายปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดของบริษัทสปาร์ตัน แคปิตัล ซีเคียวริตีส์กล่าวว่า "เราคาดการณ์ไว้แล้วว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะเร่งตัวขึ้นเล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และสิ่งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนธ.ค. และหลังจากนั้นเฟดก็อาจจะหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว แต่การหยุดพักนี้ไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดจากอัตราเงินเฟ้อ แต่เกิดจากความไม่แน่นอนในเรื่องภาษีศุลกากรของนายทรัมป์ โดยผมคิดว่าเฟดจะใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้" ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 65.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และมีโอกาส 34.4% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนก็คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกัน 0.75% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025
รัฐบาลสหรัฐรายงานในวันพูธว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเติบโต 2.8% ในไตรมาสสาม ซึ่งเท่ากับตัวเลขในการประเมินครั้งแรก ส่วนปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งครองสัดส่วนสูงกว่าสองในสามของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ปรับขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ทางด้านยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นระดับที่น้อยเกินคาด นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังรายงานอีกด้วยว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐลดลง 2,000 ราย สู่ 213,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ทั้งนี้ นายอาโม ซาโฮทา จากบริษัทแคลริที เอฟเอ็กซ์กล่าวว่า "นักลงทุนเทขายทำกำไรออกมาบ้างในวันพุธ ก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดในสหรัฐ"
เยนได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเยนได้รับแรงหนุนจากการปรับสถานะการลงทุนด้วย โดยมีแรงเทขายดอลลาร์/เยนออกมามากยิ่งขึ้นในวันพุธ หลังจากดอลลาร์/เยนดิ่งลงผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 151.99 เยน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า นักลงทุนพึงพอใจที่ญี่ปุ่นไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายในมาตรการด้านภาษีศุลกากรของนายทรัมป์ โดยเจน โฟลีย์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงินของธนาคารราโบแบงก์กล่าวว่า ญี่ปุ่น "ถือเป็นต่างชาติที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด และถือเป็นประเทศที่ลงทุนทางตรงมากที่สุดในสหรัฐ"--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;