ReutersReuters

EUROPE:โพลล์คาดอีซีบีลดดบ.ในธ.ค.,ดบ.แตะ 2.0% สิ้นปีหน้า

เบงกาลูรู--18 พ.ย.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ในวันที่ 8-14 พ.ย. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันที่ 14 พ.ย. โดยผลสำรวจคาดว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจยูโรโซนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลายครั้ง นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวของนายทรัมป์ก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจกับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 37 จาก 44 ราย หรือเกือบ 85% ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า นายทรัมป์จะประกาศใช้นโยบายภาษีนำเข้าในช่วงต้นปีหน้า โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการเก็บภาษีนำเข้าถ้วนหน้าในอัตรา 10% จากสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ และในอัตรา 60% จากสินค้าจีน โดยนักเศรษฐศาสตร์ 34 จาก 39 ราย หรือ 87% ของโพลล์คาดการณ์อีกด้วยว่า ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจยูโรโซนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

  • นายเกร็ก ฟูเซซี นักเศรษฐศาสตร์ยูโรโซนของธนาคารเจ.พี. มอร์แกนระบุว่า "คำถามหลายคำถามยังไม่ได้รับคำตอบ แต่ตอนนี้มีสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะชะลอตัวลง, มีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย" และเขากล่าวเสริมว่า "สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้ารอบนี้ในอัตราที่สูงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และอาจจะประกาศเก็บภาษีนำเข้าได้ทุกเมื่อ" ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. นักลงทุนก็ปรับลดการคาดการณ์ที่มีต่อแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่มีต่อแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี ทางด้านนายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) กล่าวว่า ถ้าหากสหรัฐประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้า ปัจจัยดังกล่าวก็จะส่งผลลบราว 1% ต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจของเยอรมนี และอาจจะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนี "ร่วงลงสู่ระดับติดลบ"

  • นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า อีซีบีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 1.50% นับตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 แต่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.75% นับตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่อยูโร ในขณะที่ยูโร/ดอลลาร์ดิ่งลง 4.02% จาก 1.0936 ดอลลาร์ในวันที่ 5 พ.ย. สู่ 1.0496 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 ปี ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 69 จาก 75 รายในโพลล์รอยเตอร์ หรือ 92% ของโพลล์คาดว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งจะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน และนักเศรษฐศาสตร์ 51 ราย หรือเกือบ 70% ของโพลล์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในไตรมาสหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.50% ในช่วงสิ้นไตรมาสหน้า นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 43 จาก 63 ราย หรือ 68% ของโพลล์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 1.25% นับตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.00% หรือต่ำกว่านั้นในช่วงสิ้นปี 2025

  • โพลล์รอยเตอร์คาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 20 ประเทศอาจจะเติบโต 1.2% ในปี 2025 และ 1.4% ในปี 2026 โดยนายเฮนรี คุก นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท MUFG กล่าวว่า "มีเหตุการณ์ต่าง ๆ กันไปที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งรวมถึงการที่สหรัฐ, อียู และจีนปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า และความไม่แน่นอนในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าทั่วโลก" โดยปัจจัยดังกล่าวอาจจะส่งผลลบ 0.4% ต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีหน้า ทั้งนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนแตะระดับ 2.0% ในเดือนต.ค. ซึ่งตรงกับระดับเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ โพลล์รอยเตอร์ก็คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2% ในไตรมาสนี้ และจะกลับคืนสู่ระดับเป้าหมายที่ 2.0% ในไตรมาสหน้า โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ระดับเป้าหมายจนถึงสิ้นปี 2027

  • อีซีบีไม่ได้ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง หรืออัตราดอกเบี้ยที่ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจและไม่ถ่วงเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับใด แต่รายงานของเจ้าหน้าที่อีซีบีที่ออกมาในช่วงต้นปีนี้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจจะเท่ากับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (หรืออัตราดอกเบี้ยที่ปรับตามภาวะเงินเฟ้อ) ที่ระดับราว 0% หรืออัตราดอกเบี้ยในรูปตัวเงินที่ระดับราว 2% ทั้งนี้ นายมาร์ค วอลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของธนาคารดอยช์ แบงก์ระบุว่า "แทนที่อีซีบีจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้กลับคืนสู่ระดับที่เป็นกลางในช่วงกลางปี 2025 เราก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะร่วงลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าระดับที่เป็นกลางภายในช่วงสิ้นปี 2025 โดยเป็นผลจากแนวโน้มที่รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ของนายทรัมป์จะประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้า, เป็นผลจากเศรษฐกิจมหภาคของยูโรโซนที่อ่อนแอลง และเป็นผลจากแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Log masuk atau cipta satu akaun percuma selamanya untuk membaca berita ini

Lebih berita dari Reuters

Lebih berita