วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565

ทองดับฝันไม่ถึงฝั่ง 1800 หลังรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด

ศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวร่วง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 15.7 ดอลลาร์หรือ -0.87% ปิดที่ราคา 1,791.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การปรับร่วงของทองคำอีกครั้งหลังได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่ดีเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) ตัวเลขออกมาที่ 528,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำอีกครั้ง โดยดอลลาร์กลับมาเคลื่อนไหวปรับขึ้นที่ระดับ 106.57 เพิ่มขึ้น 0.82% หรือ +0.78% การปรับขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าเมื่อตัวเลขแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้น จะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

ประเมินทางเทคนิคทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามการขึ้นลงของดอลลาร์เป็นหลัก โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระทบก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ ต่างทั่วโลก ภาพรวมตลาดทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
กรอบเวลารายสัปดาห์ (Week) : หลังเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลงที่ระดับ 1680.74 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Exponential Moving Average 200 ) และโดนปฏิเสธราคาที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทองคำ rebound กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ปรับขึ้นมานั้นทองคำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลส์อายุ 10 ปีของสหรัฐ โดยมองว่าตลาดทองคำในภาพรวมกว้างๆ นั้นยังคงเป็นตลาดหมี (Bearish market) อยู่ หากทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราถึงจะมองว่าภาพของฝั่งกระทิง (Bullish market) กำลังกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็อย่าเพิ่งเบาใจสำหรับนักลงทุนฝั่งตลาดกระทิง ทางเทคนิคเรายังมองเห็นทองคำยังต้องเผชิญกับแนวต้านหลักๆ ตั้งแต่ 1772 และ 1830 ขึ้นไปให้ได้ก่อน ถึงจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กรอบรายวัน (Day) : สำหรับในกรอบรายวันนั้น หลังทองคำปรับร่วงเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้เหนือแนวรับบริเวณ 1756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อยังคงเข้าช่วยพยุงราคาไว้ ทางเทคนิคในกรอบรายวันเราให้ช่วงบริเวณรับราคาในระหว่าง 1756-1727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาผยุงราคาทองคำหลังราคาทองคำปรับราคาถูกลง โดยเมื่อทองคำมีราคาที่ถูกลงก็มักจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนระยะสั้น เข้าทำการเก็งกำไรและเทขายสลับออกมา นักลงทุนจึงควรเฝ้ามองหาโอกาสจากการช่วงชิงการซื้อขายของทองคำในภาวะดังกล่าวตามแนวรับแนวต้านสำคัญๆ ประเมินว่าทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับ 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณดังกล่าวจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันพาดผ่านอยู่ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว เพราะหากทองคำสามารถขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนบางส่วนจะมองหาโอกาสการทำกำไรในบริเวณดังกล่าว

กรอบรายชั่วโมง (H1) : สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ให้ความสำคัญในกรอบรายชั่วโมงนั้น หลังทองคำปรับตัวเข้าในบริเวณ Demand zone ช่วง 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทองคำก็ยังคงรักษาระดับได้เหนือบริเวณดังกล่าว โดยทางเทคนิคหากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำอีกครั้งจนทำให้ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้าติดตามจังหวะเข้าซื้ออาจพิจารณารอจังหวะซื้อทองคำที่บริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1795-1804 ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่าทองคำขณะนี้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำนักลงทุนให้วางแผนการเทรดในระยะกลางถึงยาว ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก เทรดตามแนวโน้มราคาปัจจุบันจะดีที่สุด

=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================

Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงรอขายทำกำไรระยะสั้นจากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่ผ่านแนวรับ 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปประเมินที่บริเวณ 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

Long Position : รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1762-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน สำหรับแนวต้านถัดไปประเมินที่บริเวณ 1795-1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์)


แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------

แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1779 / 1795 / 1804
-------------------------------------------
Support : 1770 / 1763 / 1754
-------------------------------------------

แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend

-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------




*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
FibonacciFibonacci RetracementgoldanalysisgoldtradingSupport and ResistancesupportandresistancezonesTechnical AnalysistradingviewTrend AnalysisXAUUSDxpowertema74

Juga pada:

Penafian