ตลาดหลักทรัพย์ไทย
การเมืองเรื่องของผลประโยชน์
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง ท่ามกลางปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังไม่ลงตัว ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,634.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ส่งผลให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวแบบไร้ทิศทาง ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาปิดในแดนบวก ตลาดจับตาดูผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,625 จุด และกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ภายในกรอบ 1,612 – 1,643 จุด ดัชนีตลาดจะเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคัลเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น (ระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป) อย่างต่อเนื่อง และดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดือนหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกันจะทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,640 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,628 – 1,623 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
การเมืองเรื่องของผลประโยชน์
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง ท่ามกลางปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังไม่ลงตัว ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,634.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ส่งผลให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวแบบไร้ทิศทาง ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาปิดในแดนบวก ตลาดจับตาดูผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,625 จุด และกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ภายในกรอบ 1,612 – 1,643 จุด ดัชนีตลาดจะเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคัลเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น (ระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป) อย่างต่อเนื่อง และดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดือนหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกันจะทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,640 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,628 – 1,623 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์